ล่าสุด

ลิงค์ที่เป็นมิตร

“ยุทธศักดิ์” เตือนท่องเที่ยวไทยสิ้นยุคทอง แนะเร่งหายุทธศาสตร์รับมือ

2025-06-09     IDOPRESS

"ยุทธศักดิ์" เตือนท่องเที่ยวไทยสิ้นยุคทอง แนะเร่งหายุทธศาสตร์รับมือ มุ่งตลาดนทท. คุณภาพมากกว่าจำนวน

นายยุทธศักดิ์ สุภสร อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ถึงเวลาแล้วที่การท่องเที่ยวไทยต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงซึ่งจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปและอาจจะสิ้นยุคทอง แต่เชื่อว่าการท่องเที่ยวไทยจะสามารถก้าวสู่ยุคใหม่ของการท่องเที่ยวไทยที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวที่อเมซิ่งยิ่งกว่าเดิมด้วยแนวคิด Better Target,Better Quality,Better Future เพื่อสร้างการ ท่องเที่ยวไทยยุคใหม่ภายใต้ภูมิศน์ใหม่ให้เติบโตบนพื้นฐานของสมดุล คุณภาพ ยั่งยืน เพื่อให้การท่องเที่ยวยังคงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และพัฒนาเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้น พ้นจากสภาวะ “อุตสาหกรรมกบต้ม” ทำให้การท่องเที่ยวไทยแข่งขันได้และยังยืนต่อไป

ทั้งนี้ในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมาโดยเร็วจากพัฒนาการของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชะลอตัวลง และมุ่งสร้างอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยุคใหม่รับการเปลี่ยนแปลงอย่างสมดุล มีคุณภาพ บนพื้นฐานของความยั่งยืน โดย Better Target เร่งนำนักท่องเที่ยวจีนกลับมา พร้อมกับเฟ้นหานักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่สามารถชดเชยการขาดหายไปของนักท่องเที่ยวจีนในมิติของการสร้างรายได้เชิงคุณภาพทั้งกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองหรือเอฟไอที

และกรุ๊ปทัวร์ โดยเฉพาะจากตลาดประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่นในพื้นที่ตลาดระยะไกล้ ในฐานะตลาดที่เลือกเดินทางในช่วงหยุดยาวและวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยมุ่งทำการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายคุณภาพที่เน้นคุณภาพมากกว่าจำนวน ในลักษณะทำน้อยได้มาก อาทิ กลุ่มรายได้สูง กลุ่มใช้จ่ายสูง กลุ่มความสนใจพิเศษ และกลุ่มที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมกับสร้างสมดุลในเชิงพื้นที่ (เมืองหลัก-เมืองรอง) และเวลา ให้ทุกเมืองเป็นเมืองต้องห้ามพลาด เที่ยวไทยได้ทุกที่ทุกเวลา ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศอย่างเข้มข้น จริงจัง เพื่อให้ “ไทยเที่ยวไทย” เป็นแหล่งรายได้หลักและมั่นคง ทัดเทียมกับต่างชาติเที่ยวไทยเพื่อกระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพารายได้จากตลาดต่างประเทศเมื่อเกิดผลกระทบทางลบจากปัจจัยภายนอก

ทั้งนี้การท่องเที่ยวไทยที่ตกอยู่ในสภาวะ “อุตสาหกรรมกบต้ม” มีสาเหตุหนึ่งมาจากปัญหาภาพลักษณ์ที่สั่งสมมานาน เช่น คนจีนกังวลการเดินทางมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 28% ในปี 65 เป็น 51% ในปี 66 ตอกย้ำด้วยภาพลักษณ์เชิงลบผ่านภาพยนตร์ เช่น No More Bets รวมถึงการจับคนรวยเรียกค่าไถ่ การที่ไทยถูกใช้เป็นทางผ่านของอาชญากร อีกทั้งฐานช่องสุมสิ่งผิดกฎหมายและค้ามนุษย์ในชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนมีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อโซเซียลที่มุ่งโจมตีภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวไทยด้านความไม่ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง และตึกถล่มที่ประเทศไทยหลังจากเกิดแผ่นดินไหว ทำให้เกิดภาพจำใหม่ในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติว่าระบบจัดการของไทยไม่ดี ไม่ปลอดภัย จนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมันในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทย ซึ่งเกิดขึ้นไม่

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
กลับไปด้านบน
©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 อ่าวไทย [อ่าวไทย]      ติดต่อเรา   SiteMap